วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

ปัญหาการค้าประเวณี

ปัญหาการค้าประเวณี



ความหมายของโสเภณี 

     ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน   “โสเภณี”  แปลว่า  งาม   แต่ความหมายที่เข้าใจกันโดยทั่วไป  หมายถึง  ผู้หญิงที่ทำการค้าประเวณี  ซึ่งเป็นคำย่อมาจาก “นครโสภิณี”  คือ  หญิงงามเมือง  หญิงนครโสเภณีตามพระราชบัญญัติสัมญจรโรค  คือ  หญิงที่รับจ้างทำชำเรา  สำส่อนโดยได้รับเงินผลประโยชน์เป็นค่าจ้าง

     สรุปแล้ว  โสเภณีเป็นการค้าประเวณีจึงหมายถึงบุคคลที่ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย  ที่กระทำเพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่นจะเป็นไปในทางร่วมประเวณีอย่างปกติหรือมีการปรนนิบัติแบบอื่นใด  อันเป็นการสำส่อนเพื่อสินจ้างรางวัลซึ่งอาจจะเป็นเงินทอง  หรือสิ่งของอย่างอื่น  ทั้งนี้ไม่ว่าการกระทำนั้นจะได้กระทำต่อเพศเดียวกันหรือต่างเพศ  ไม่ว่าการกระทำนั้นจะกระทำเป็นครั้งคราวหรือเป็นอาชีพ  การค้าประเวณีจึงเป็นอาชีพของทั้งหญิงและชายโดยหญิงนิยม  เรียก  โสภณี  ชายนิยมเรียก  ผู้ชายขายบริการ  แต่ส่วนมากหญิงจะค้าประเวณีมากกว่าชาย 


ประวัติของการค้าประเวณี 

      การค้าประเวณีมีมาแต่สมัยพุทธกาล  เพราะในสมัยนั้นถือว่าโสเภณีเป็นอาชีพที่สุจริตชนิดหนึ่งที่ได้รับการยกย่องและมีเกียรติในสังคมชั้นสูง  หลักฐานที่ทำให้เชื่อว่าในสมัยพระพุทธเจ้ามีการค้าประเวณี  โดยอ่านดูได้จากหนังสือ  วาสิฏฐี  บทที่ ๓  ตอนเพื่อนมนุษย์  ที่มีการเล่าเรื่องที่มีความเป็นไปเกี่ยวกับการค้าประเวณีหรือนางคณิกาของกรุงอุชเชนีถวายต่อพระพุทธเจ้า  โดยบรรยายว่าหลายระดับตั้งแต่ผู้อยู่ในปราสาทและผู้สร้างเทวสถานวโนทยานที่แขกเมืองสำคัญ  หรือเจ้านายไปเยี่ยมเยียน  จนถึงชั้นต่ำ  ซึ่งโสเภณีดังกล่าวแม้แต่กษัตริย์ก็ทรงให้เกียรติ  ประชาชนก็ยกย่อง  นักกวียังกล่าวสรรเสริญเยินยอ  แพทย์ประจำพระองค์ของพระพุทธเจ้าก็มีมารดาที่มีอาชีพค้าประเวณี

          สมัยกรีกและโรมันสมัยโบราณ มีหญิงที่ทำพิธีกรรมทางศาสนาโดยรับสมสู่ชายที่มีจำนวนไม่จำกัดในสถานที่ของศาสนา  เช่น  ในกรุงบาบิโลน  บนเกาะไซปรัส  และในเอเชียตะวันตกหลายประเทศ  ปรากฏหลักฐานว่ามีหญิงค้าประเวณีเพื่อศาสนา  นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกได้กล่าวว่า  ประเพณีของชาวบาบิโลเนียไม่ว่าไพร่หรือผู้ดีต้องผ่านพิธีบูชาเจ้าแม่มิลิตตา  โดยการนั่งบนวิหารอิชตาร์  เพื่อรอการสมสู่กับชายต่างท้องถิ่น  เป็นการพลีพรหมจารีเพื่อเจ้าแม่และมอบเงินที่ได้ให้ศาสนาถือว่าได้กุศลแรงโดยมีข้อแม้ว่าจะต้องไม่รับสินจ้างรางวัลเป็นส่วนตัว  ทรัพย์สินที่ได้มาโดยเสน่หา  ก็ต้องนำเข้าคลังของศาสนาเพื่อใช้ในกิจกรรมของศาสนาต่อไป ต่อมาเมื่อมีศาสนาคริสต์  พิธีกรรมดังกล่าวจึงหมดไป

            ต่อมาการค้าประเวณีจึงมีขึ้นอย่างออกหน้าออกตา  จนกระทั้งรัฐบาลกรีกเล็งเห็นความเสื่อมโทรมในด้านนี้  จึงได้ลงมือปราบปรามแต่ไม่ได้ผล  จึงเปลี่ยนวิธีการใหม่  โดยการออกใบอนุญาตและบังคับให้โสเภณีเสียภาษีในอัตราสูง  เพื่อการบังคับทางอ้อมให้เลิกราแต่ไม่ได้ผล  หญิงโสเภณีมีอยู่ดาษดื่น  รัฐบาลจึงได้พยายามกำจัดปัญหานี้ด้วยวิธีการต่างๆ  เช่น  ระบุชื่อหญิงเพื่อเป็นการประจานความชั่ว

















สาเหตุ  ของการเป็นโสเภณี

๑.       สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ  สังคม  และครอบครัว

               ๑.๑ สภาพครอบครัวไม่มั่นคง เช่น พ่อแม่ชอบทะเลาะกัน  พ่อมีเมียน้อย  แม่มีชู้  หย่าขาดจากกัน  พี่น้องไม่ปรองดองกัน  เป็นต้น  เมื่อหาความสุขในบ้านไม่ได้ก็ไปหาความสุขนอกบ้าน  หรือหนีออกไปจากบ้านจึงถูกหลอกไปเป็นโสเภณีได้ หรือครอบครัวไม่ราบรื่น  อาจจะถูกชักจูงหรือหลอกลวงไปค้าประเวณีโดยสมัครใจหรือไม่สมัครใจก็ได้

                ๑.๒ สภาพแวดล้อม  ถ้าอยู่ในสิ่งแวดล้อมไม่ดี   เช่น  แหล่งเสื่อมโทรมหรือแหล่งการค้าประเวณีภัตตคารหรือห้องอาหารที่มีโสเภณีแอบแฝงอยู่   เป็นต้น   อาจจะทำให้เกิดความเคยชินและเห็นเรื่องชู้สาวเป็นของธรรม   อาจจะถูกชักจูงให้ค้าประเวณีได้ง่าย

                 ๑.๓  ฐานะทางเศรษฐกิจ   ในครอบครัวที่มีฐานะทางเศษรฐกิจไม่ดี  อาจเป็นสาเหตุให้เกิดโสเภณี  เช่น  หญิงที่มีหน้าที่เลี้ยงดูลูก  หรือครอบครัวเพื่อการอยู่รอด  แต่หางานอื่นทำไม่ได้  หรือมีรายได้ไม่เพียงพอ  อาจจะหันมายึดอาชีพโสเภณีได้  หรือหญิงบางคนยากจนแต่ยากได้เงินง่ายๆและไม่มีทางใดหาเงินได้นอกจากการเป็นโสเภณี

                ๑.๔ กลุ่มผลประโยชน์  เป็นพวกที่ได้ผลประโยชน์จากการค้าประเวณีโดยไม่คำนึงถึงศีลธรรม  การหากินของพวกนี้ออกมาในหลายลักษณะ และยากที่จะศึกษาวิธีการทั้งหมดได้  เพราะออกมาในรูปวิธีการต่างๆ

                 ๑.๕ ความไม่เป็นระเบียบของสังคมด้านอื่น  เป็นเรื่องของความเสื่อมโทรมทางด้นศลีธรรมและวัฒนธรรม  ก่อให้เกิดการฉุดคร่าข่มขืน  การทอดทิ้งเด็ก  การทอดทิ้งของสามี  การแตกร้าวในครอบครัวเหล่านี้เป็นสาเหตุของการทำให้เป็นโสเภณี

๒. สภาพร่างกาย 

     ๒.๑ ฝ่ายหญิง 

         ๑)  สภาพผิดปรกติทางจิต  จากสภาพผิดปกติทางจิต  หญิงโสเภณีจึงเข้าใจว่าสังคมมีความต้องการทางเพศ  ดังนั้น  หญิงเหล่านี้จึงคิดว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของสังคม  ก็ควรตอบสนองความต้องการของสังคมในด้านนี้โดยการเป็นโสเภณี  และไม่ถือว่าเป็นสิ่งน่าอับอายแต่ประการใด

         ๒)  การวิปริตทางเพศ  หญิงโสเภณีบางรายมีอวัยวะเพศไม่สมบูรณ์อันเกิดจากกรรมพันธุ์หรือโร๕บางชนิด  ฮอร์โมนรุนแรงในขณะเยาว์วัย  ทำให้เกิดความรู้สึกผิดปกติในระบบเพศ  เป็นโรคทางเพศ  หรือบางกรณีรู้สึกเป็นปมด้อยในตัวเอง  ความผิดปกติดังกล่าวทำให้หญิงพวกนี้ต้องการจะแสดงออกทางเพศจึงกระทำสำส่อนและเป็นโสเภณีในที่สุด

        ๓)  เชาว์ปัญญาต่ำ  จากการสำรวจพบว่ามีปัญญาต่ำ  หรือบางรายก็เป็นประเภทจิตทราม  ซึ่งเป็นสาเหตุที่นำไปสู่การค้าประเวณีได้ง่าย  โดยเฉพาะวัยรุ่นที่เป็นโสเภณี  เพราะไม่สามารถตัดสินใจ  ลังเล  หรือมองไม่เห็นความแตกต่างระหว่างการเป็นคนดีกับโสเภณี

        ๔)  การศึกษาต่ำ  จากการสำรวจปรากฏว่า  หญิงโสเภณีที่ไม่เคยได้รับการศึกษามีถึงร้อยละ ๓๖  ที่ได้รับการศึกษาขั้นประถมมีจำนวนร้อยละ  ๘๑  และระดับมัธยมมีจำนวนน้อยมาก  การศึกษานี้บางรายการก็เป็นเพราะเชาว์ปัญญาต่ำซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและง่ายต่อการถูกหลอกให้หลงเชื่อเพราะรู้ไม่เท่าทัน 

๒.๒  ฝ่ายชาย

          ๑)  ชายที่ชอบไปเที่ยวหญิงโสเภณี  เช่น  พวกชายโสด  นักธุรกิจ  ทหารต่างชาติ  หรือชายที่มีครอบครัวแต่ต้องการหลายรสที่แปลกไปจากภรรยาของตน  เป็นต้น  เพราะเป็นที่ที่ระบายความต้องการทางเพศ  โดยมีเงินเป็นเครื่องตอบแทน  จึงเป็นเหตุให้การค้าประเวณีมีอยู่

          ๒)  ชายมีอาชีพเป็นพวกล่อลวงหญิงมาเป็นโสเภณีด้วยวิธีการต่างๆ  ให้หญิงหลงเชื่อโดยเฉพาะหญิงชนบท


 


ผลของการมีการค้าประเวณี

๑.ผลเสีย

    ๑.๑  การแพร่เชื้อกามโรค  เพราะการค้าประเวณีกับกามโรคเป็นของคู่กัน  และกามโรคติดต่อกันด้วยการมีสัมพันธ์ทางเพศ  อันตรายของโรคนี้อาจจะถึงแก่ชีวิตหรือถ่ายทอดไปยังลูกหลานได้

    ๑.๒  การเสื่อมโทรมทางศีลธรรมในสังคม  ปัญหาใหญ่ๆคือ  การล่อลวงหญิงในชนบทมาเป็นโสเภณีการแสวงหาผลประโยชน์ของเจ้าสำนัก  และแมงดาที่คอยรีดไถเงินหรือทำการทารุณกรรมต่างๆตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่เกี่ยวข้องบางคนก็ร่วมมือกับหัวหน้าธุรกิจค้าประเวณี  เพราะได้รับเงินสัมมนาคุณจากพวกมิจฉาชีพทำให้การค้าประเวณีดำเนินไปอย่างราบรื่น

    ๑.๓  ปัญหาด้านอาชญากรรม  แหล่งสำนักการค้าประเวณีเป็นแหล่งมั่วสุมของยาเสพติด  อันธพาล  การพนัน  ทำร้ายร่างกาย  เป็นต้น

     ๑.๔  ปัญหาเด็กเกิดจากโสเภณี  ส่วนมากไม่รู้จักคุมกำเนิด  จึงตั้งครรภ์ได้ง่าย  เมื่อเกิดมีครรภ์ก็แก้ด้วยการกินยาให้แท้ง  หรือทำแท้ง  หรือปล่อยเลยตามเลย  และค้าประเวณีไปด้วย  เด็กที่ออกมาจึงมีโอกาสติดโรคได้ง่าย  ซึ่งบางครั้งก็อาจถึงกับทุพพลภาพหรือปัญญาอ่อน

     ๑.๕  เป็นช่องทางให้นักฉกฉวยโอกาสเปิดกิจกรรมต่างๆขึ้นมาบังหน้า  และมีการค้าประเวณีไว้ไว้หลังฉาก  เช่น  ไนต์คลับ  บาร์  อาบอบนวด  เป็นต้น  เป็นต้น

 ๒. ผลดี

      ๒.๑  เป็นแหล่งระบายและบำบัดความต้องการและกดดันทางเพศของบุคคลบางกลุ่ม  เช่น  พวกที่ยังโสด  พวกที่มีภรรยาแล้วบางคน  นักทัศนาจรที่ต้องเดินทางเป็นเวลานาน  นักธุรกิจ  ทหารต่างชาติ  พวกที่มีความต้องการทางเพศ  เป็นต้น

      ๒.๒   เป็นรายได้  โดยเฉพาะผู้ที่มีความจำเป็นทางเศรษฐกิจ  หรือผู้ที่สมัครใจหรือคนที่ชอบประกอบอาชีพนี้

การป้องกันและการแก้ปัญหาโสเภณี

๑.        การกำจัดสำนักค้าประเวณี  โดยการสอดส่องและลงโทษอย่างจริงจัง

๒.     ลงโทษพวกล่อลวง  นักค้าสตรี  ชายแมงดา  หรือผู้ส่งเสริมการค้าประเวณีในสถานหนัก

๓.      เผยแพร่ปัญหาการค้าประเวณี  การแพร่ของกามโรค  โทษของการค้าประเวณี

๔.      ยกระดับทางเศรษฐกิจและสังคม  ปรับปรุงมาตรฐานการครองอาชีพประชาชนให้สูงขึ้นเพื่อให้ประชาชนมีรายได้และฐานะดีขึ้น  จัดบริการทางด้านสวัสดิการให้สังคมดีขึ้น  เช่น  ด้านการฝึกอาชีพ  หรือให้การช่วยเหลือแก่หญิงที่มีปัญหาและยากไร้  เช่น  หญิงม่าย  หญิงนอกสมรส  หญิงมีครรภ์  โดยให้มีสถานที่พักในระยะสั้นและระยะยาว  เพื่อให้หญิงเหล่านี้มีโอกาสปรับตัวและออกไปหาเลี้ยงตนเองได้

๕.      จัดตั้งสถานแนะแนวปัญหาชีวิตและการเลี้ยงดฟุเด็ก  เพื่อให้ครอบครัวอยู่กันอย่างราบรื่นมีความรัก  ความอบอุ่น  และมั่นคง

๖.       ลงโทษอย่างหนักแก่เจ้าหน้าที่ที่ปราบปรามการค้าประเวณี  ถ้ายังละเลยหรือส่งเสริมให้สำนักโสเภณีดำเนินการโดยเปิดเผยหรือแอบแฝงทั้งทางตรงและทางอ้อม

ข้อแนะนำ

ถ้าเรายังยอมรับว่า

๑.       การค้าประเวณียังคงอยู่ในสังคม  และเป็นสิ่งที่ไม่อาจขจัดให้หมดสิ้นไปไม่ว่าในสังคมใด

๒.     เป็นการช่วยบำบัดความต้องการทางเพศของบุคคลบางจำพวก

๓.      คนที่จิตไม่ปกติมีสภาพจิตไปทางไซโคแพทติก  หรือจิตทรามยังมีอยู่

วิธีแก้ไขให้ได้ผลและถูกสุขลักษณะ  คือ  ยอมให้มีการค้าประเวณีอย่างถูกต้องและเป็นทางการ  คือ  มีการจำกัดเขตการตั้งแหล่งยริการโสเภณีให้เป็นหลักแหล่ง  และมีการควบคุมการแพร่เชื้อกามโรคอย่างถูกสุขลักษณะตลอดจนให้มีการเสียภาษีอากรอย่างถูกต้อง  โดยให้หญิงที่ค้าประเวณีขึ้นทะเบียน  และตรวจสุขภาพก่อนประกอบอาชีพและให้แพทย์มาตรวจเป็นระยะๆถ้าหากไม่ดำเนินการแบบนี้  การค้าประเวณีก้ยังคงออกมาในรูปของลักลอบต่อไปทั้งยังเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค  ล่อลวง  อบายมุข  ฯลฯ  ซึ่งมีผลร้ายมากกว่าผลดี  เราควรยอมรับความเป็นจริงว่าโสเภณีเป็นของคู่กับสังคม  และเป็นสิ่งที่ไม่สามารถกำจัดให้หมดสิ้นไป

 ผลกระทบที่เกิดจากโสเภณีเด็ก ที่มีต่อตัวเด็กหญิง และสังคม

          2.1 ผลกระทบที่มีต่อเด็กหญิงที่ขายบริการทางเพศ

               1. มีความตื่นตัวทางเพศเร็วเกินไป และมีความต้องการทางเพศมาก ทำให้พวกเธอมีพฤติกรรมสำส่อนกับชายทุกคนที่พวกเธอชื่นชอบ โดยไม่มีการป้องกั

               2. การติดโรคทางเพศสัมพันธ์

               3. การติดยาเสพติด

               4. ถูกทำร้ายทางด้านร่างกายและจิตใจ

               5. เสี่ยงต่อการถูกล่อลวงหรือจัดหาตัวไปขาย

               6. มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนไปจากบรรทัดฐานของสังคม

          2.2 ผลกระทบที่มีต่อสังคม

               1. ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม

               จากการศึกษา กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า โสเภณีเด็กก่อให้เกิดปัญหาการลักทรัพย์ มากที่สุด ร้อยละ 80.9 รองลงมาเห็นว่าโสเภณีเด็กก่อให้เกิดปัญหา ยาเสพติด ร้อยละ 59.3 และโสเภณีเด็กก่อให้เกิดปัญหาการถูกข่มขืนและทำร้ายร่างกาย ร้อยละ 42.5 สอดคล้องกับกลุ่มประชาชนทั่วไป เห็นว่า โสเภณีเด็กก่อให้เกิดปัญหาการลักทรัพย์ มากที่สุด ร้อยละ 83.8 รองลงมา เห็นว่าโสเภณีเด็กก่อให้เกิดปัญหายาเสพติด ร้อยละ 77 และโสเภณีเด็กก่อให้เกิดปัญหาการถูกข่มขืนและถูกทำร้ายร่างกาย ร้อยละ 50.3 ในขณะเดียวกัน เมื่อสัมภาษณ์เด็กหญิง พบว่า สี่ในห้าคนถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ ส่วนใหญ่ขโมยโทรศัพท์มือถือของลูกค้า เนื่องจากเด็กหญิงมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น แต่รายได้ที่ได้รับกลับเท่าเดิม จำเป็นต้องหาวิธีอื่นช่วย โดยการขโมยทรัพย์สินที่มีค่า โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือของลูกค้า และได้สอบถามเกี่ยวกับการเสพยาเสพติด พบว่า สามในห้าคนสูบบุหรี่หนักมาก และในอนาคตอาจจะพัฒนาถึงขั้นติดยาเสพติดก็ได้

               2. การแก้ไขปัญหาและการปราบปรามปัญหาโสเภณีเด็ก

               ประเด็นนี้ กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ความเห็นว่า การปราบปรามโสเภณีเด็ก ควรแก้ไขปัญหาสังคมควบคู่ไปด้วย ร้อยละ 98.9 รองลงมาเห็นด้วยกับปัญหาโสเภณีเด็กมีผลกระทบต่อขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรม ร้อยละ 92.5 และโสเภณีเด็กส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ร้อยละ 92.4 กลุ่มประชาชนทั่วไป ส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาลที่กำลังปราบปรามโสเภณีเด็ก ร้อยละ 96.9 รองลงมาเห็นด้วยกับพ่อแม่ควรเลิกค่านิยมนำบุตรไปขาย ร้อยละ 94.7 เพราะเป็นการทำลายอนาคตของเด็กและของประเทศชาติ อีกทั้งยังผิดกฎหมายและผิดศีลธรรมด้วย และเห็นด้วยที่จะให้มีการแก้ไขกฎหมายโดยเพิ่มบทลงโทษต่อผู้ที่กระทำผิดให้รุนแรงมากขึ้น ร้อยละ 94.2 และความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายที่จะให้โสเภณีจดทะเบียน ประชาชน ร้อยละ 59.3 ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ โดยให้เหตุผลว่า นอกจากจะไม่เป็นการปราบปรามแล้ว ยังเป็นการสนับสนุน ส่งเสริมให้จำนวนโสเภณีเพิ่มขึ้น ผิดศีลธรรม และทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสื่อมเสียด้วย และร้อยละ 40.7 ที่เห็นด้วยกับนโยบายรัฐบาลที่จะให้โสเภณีจดทะเบียน โดยให้เหตุผลว่า จะได้ทราบจำนวนโสเภณีที่แท้จริงและสามารถควบคุมได้ ส่วนกลุ่มเด็กหญิงที่ให้สัมภาษณ์ ตอบว่าการที่จะแก้ไขปัญหาโสเภณีเด็กได้ก็ต้องจัดหาอาชีพให้กับพวกเธอ เพื่อให้มีรายได้ที่สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ และควรเปิดโอกาสทางการศึกษาให้เท่าเทียมกัน

          สรุปผลการศึกษา ผลกระทบที่เกิดจากโสเภณีเด็กที่มีต่อตัวเด็ก และสังคม พบว่า ปัญหาโสเภณีเด็กมีผลกระทบต่อขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรม และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และปัญหาอาชญากรรมที่เกิดจากโสเภณีเด็ก ส่วนใหญ่ที่ส่งผลกระทบมากที่สุด คือ ปัญหาการลักทรัพย์ รองลงมา คือ ปัญหายาเสพติดและปัญหาการถูกข่มขืนและทำร้ายร่างกาย ตามลำดับ

               3. ผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปราบปรามโสเภณีเด็ก

          จากการศึกษา การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปราบปรามโสเภณีเด็ก พบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนใหญ่ ร้อยละ 77.1 ในรอบปีที่ผ่านมาไม่เคยจับกุมโสเภณีเด็กเลย เพราะไม่มีโสเภณีเด็กจะให้จับ ร้อยละ 9.8 เคยจับกุมกุมโสเภณีเด็ก 5 รายขึ้นไป และ ร้อยละ 7.1 เคยจับกุมโสเภณีเด็ก 2-5 ราย โสเภณีเด็กส่วนใหญ่ ถูกจับกุมได้บริเวณร้านคาระโอเกะ ร้านอาหาร ไนต์คลับ และสถานที่อาบ อบ นวด และการจับกุมนั้น เกิดจากการกระทำผิดซึ่งหน้า มีผู้ชี้ให้จับ และมีพฤติกรรมน่าสงสัย ตามลำดับ

ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย

แนวทางการป้องกัน

          1. รัฐควรเร่งขยายโอกาสทางการศึกษาให้ครอบคลุมและทั่วถึงทุกพื้นที่ จัดฝึกอาชีพที่สามารถทำได้จริง และมีตลาดรองรับ

          2. รณรงค์ให้ความสำคัญเรื่องครอบครัว โดยส่งเสริมความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัวลดความฟุ้งเฟ้อด้านวัตถุนิยม บริโภคนิยม ต่อต้านค่านิยมและพฤติกรรมสำส่อนทางเพศของผู้ชาย

          3. รัฐควรมีมาตรการในการควบคุมสื่อลามก อนาจาร ต่าง ๆ โดยให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบควบคุมการเสนอข้อมูลข่าวสาร ทางสื่อมวลชน หรือทางโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

แนวทางแก้ไขปัญหา

          รัฐควรให้ความช่วยเหลือเด็กหญิงที่ขายบริการทางเพศ โดยการไม่ซ้ำเติม ให้กำลังใจ ให้ความช่วยเหลือพวกเธอในทุก ๆ ด้าน อันได้แก่ การฟื้นฟูด้านจิตใจ ปลูกจิตสำนึกให้รักศักดิ์ศรีของสตรี การฝึกฝนอาชีพ เพื่อให้มีทักษะในการเลี้ยงชีพ โดยไม่คิดกลับมาขายบริการทางเพศอีก

ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติการ

          1. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กวดขัน ปราบปราม จับกุม การค้าประเวณีของเด็กและเยาวชน โดยให้ถือว่า การปราบปรามขบวนการค้าประเวณี เป็นความรับผิดชอบโดยตรงและเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วน

          2. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปราบปราม จับกุม การค้าประเวณีเด็ก โดยให้ล่อซื้อผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และดำเนินการต่อผู้โฆษณา ชักชวน หรือกระทำให้แพร่หลายไปยังสาธารณะ หรือติดต่อเพื่อการค้าประเวณี อย่างจริงจังและต่อเนื่อง

          3. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหาโสเภณีเด็ก และให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ได้แก่ บช.น.,ภ1-9 ,บช.ก.,ส. และ สตม. จัดทำแผนหรือภารกิจหลัก เพื่อของบประมาณในการป้องกันปราบปรามปัญหาโสเภณีเด็กอย่างจริงจังต่อไป

          4. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสงเคราะห์และผู้แทนองค์กรเอกชน ในการควบคุมดูแล ตลอดจนหามาตรการเพื่อป้องกันและปราบปราม เพื่อไม่ให้เด็กหญิงเข้าสู่อาชีพการขายบริการทางเพศได้









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น